"โรคซึมเศร้า " เกิดได้หลายสาเหตุ ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานของสมองที่ผิดปกติ
ที่ไม่สมดุลกัน กรรมพันธุ์ก็ทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนอื่น ๆ
แต่จะต้องประกอบกับปัจจัยข้ออื่น ๆ ด้วย เช่น ชอบคิดมาก หงุดหงิดง่าย รู้สึกสิ้นหวัง
ชอบว่าตัวเอง เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ทำอะไรคนเดียวบ่อย ๆ พฤติกรรมเหล่านี้
อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและเป็นโรคหนึ่งซึ่งสามารถเกิดขึ้น
ที่ไม่สมดุลกัน กรรมพันธุ์ก็ทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนอื่น ๆ
แต่จะต้องประกอบกับปัจจัยข้ออื่น ๆ ด้วย เช่น ชอบคิดมาก หงุดหงิดง่าย รู้สึกสิ้นหวัง
ชอบว่าตัวเอง เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ทำอะไรคนเดียวบ่อย ๆ พฤติกรรมเหล่านี้
อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและเป็นโรคหนึ่งซึ่งสามารถเกิดขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาหายได้ด้วยการใช้ยา การรักษาทางจิตใจ
หรือทั้งสองอย่างรวมกัน
นอกจากนี้คนที่ขาดความมั่นใจ วิตกกังวลง่าย มีแนวโน้มเกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่าย
ความเครียดสะสม ตกงาน สิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นอาการป่วยให้แสดงออกมา รวมถึง
อาการป่วยจากโรคและการใช้ยารักษาโรคที่ตามมา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง
ในลักษณะอาการซึมเศร้าได้
ความเครียดสะสม ตกงาน สิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นอาการป่วยให้แสดงออกมา รวมถึง
อาการป่วยจากโรคและการใช้ยารักษาโรคที่ตามมา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง
ในลักษณะอาการซึมเศร้าได้
" สัญญาณบ่งบอกโรคซึมเศร้า "
- คนที่เป็นโรคซึมเศร้า จะรู้สึกผิด สิ้นหวัง หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
- มีอารมณ์ซึมเศร้า บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิด ก้าวร้าว
- เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก
- ขาดความสนใจ ความชอบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ
- กระวนกระวาย ไม่อยากทำกิจกรรมใดๆ
- นอนไม่หลับ หรือนอนนานกว่าปกติ
- มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า โดดเดี่ยว และมีความรู้สึกผิด
- ไม่มีสมาธิ ความจำแย่ลง และไม่สามารถตัดสินใจเองได้
- รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยตลอดเวลา เมื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง
- คิดที่จะฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง
หมายเหตุ: ต้องมีอาการเช่นนี้หลายข้อ เป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป และเป็นอยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน
คนที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเดือน ๆ หรือเกิดขึ้นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มากระทบรุนแรงแค่ไหน แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน
เนื่องจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองเสียสมดุลส่งผลให้มีอาการป่วยทางด้านร่างกาย จิตใจและความคิด ร้องไห้บ่อยกับเรื่องเล็กน้อย รู้สึกเบื่อคน เบื่องาน เบื่อโลก เบื่อชีวิต คิดว่าตัวเองเป็นภาระคนอื่น กลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจ หลงลืมง่ายโดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ออก พูดด้วยเมื่อเช้าก็จำไม่ได้ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
โรคซึมเศร้าสามารถรักษาให้หายได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อให้อาการดีขึ้นและหายในที่สุด รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต และให้ความร่วมมือกับนักจิตบำบัดในการรักษา ซึ่งปัจจุบันการรักษาโรคซึมเศร้ามี 3 วิธีหลักได้แก่ ยารักษาโรคซึมเศร้า(ปรับระดับสารเคมีในสมองให้สมดุล) จิตบำบัด และการรักษาด้วยการกระตุ้นเซลล์สมอง
ความเข้าใจจากคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าคิดว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นคนอ่อนแอ คิดมากเกินไป หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา แต่เพราะคนเป็นโรคซึมเศร้าคือผู้ป่วย ฉะนั้นถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมก็จะกลับมาเป็นคนที่มีอารมณ์มั่นคง พร้อมทำกิจวัตรต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม และอย่าเพิกเฉย ถ้าคนข้างกายของเราพูดถึงเรื่องการตายหรือไม่อยากมีชีวิตอยู่เด็ดขาด ควรรีบแจ้งแพทย์หรือนักบำบัดทางจิตทันที
ขอขอบคุณ ภาพและข้อมูล : internet ,manulife
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น