15 เห็ดพิษอันตราย ที่ห้ามกินเด็ดขาด!!
ในช่วงฤดูฝนชุ่มฉ่ำแบบนี้ ชาวบ้านต่างจังหวัดหรือคนที่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาตินิยมทำกัน คือการเก็บเห็ดป่ามารับประทานนั่นเอง เพราะเห็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติมักมีรสชาติอร่อย สด
และปราศจากสารเคมี แต่ทุกปีมีข่าวที่มีชาวบ้านบางพื้นที่ได้รับอันตราย หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต จากการกินเห็ดพิษเข้าไปโดยไม่ทราบมาก่อน
และปราศจากสารเคมี แต่ทุกปีมีข่าวที่มีชาวบ้านบางพื้นที่ได้รับอันตราย หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต จากการกินเห็ดพิษเข้าไปโดยไม่ทราบมาก่อน
บางคนอาจจะทราบว่าเห็ดที่มีพิษมักจะมีสีสันที่ฉูดฉาดอย่างแดง ส้ม หรือเหลืองสด แต่ความจริงแล้วอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป วันนี้เรามีบทความดีๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักชนิดของเห็ดมีพิษที่เราควรหลีกเลี่ยงกันดีกว่าค่ะ
เห็ดพิษที่พบได้บ่อย
ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ได้ออกมาเปิดเผยว่า 15 เห็ดที่มีพิษมีดังนี้
1. เห็ดระโงกเหลืองก้านต้น
2. เห็ดกระโดงตีนตัน
3. เห็ดคล้ายเห็ดโคน
4. เห็ดข่า
5. เห็ดขี้ควาย
6. เห็ดตอมกล้วยแห้ง
7. เห็นระโงกหิน
8.เห็ดไข่
9. เห็ดมันปูใหญ่
10. เห็ดดอกกระถิน
11. เห็ดแดงก้านแดง
12. เห็ดเผาะ (มีราก)
13. เห็ดขี้วัว
14. เห็ดไข่หงษ์
15.เห็ดโคนส้ม
ข้อสังเกต : เห็ดที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก
- เห็ดไข่ ทานไม่ได้ แต่เห็ดไข่เหลือง ทานได้
- เห็ดระโงกหิน ทานไม่ได้ แต่เห็ดระโงกขาว ทานได้
- เห็ดมันปูใหญ่ ทานไม่ได้ แต่เห็ดมันปูใหญ่ ทานได้
- เห็ดเผาะที่มีราก ทานไม่ได้ แต่เห็ดเผาะที่ไม่มีราก ทานได้
- เห็ดโคน ทานได้ แต่มีเห็ดที่มีลักษณะคล้ายเห็ดโคน แต่ไม่ใช่เห็ดโคน ที่ทานไม่ได้
อาการเมื่อทานเห็ดมีพิษ
ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง เป็นตะคริว อาจเกิดขึ้นหลังกินไม่กี่นาที หลายชั่วโมง หากมีอาการรุนแรงมาก การทำงานของตับและไตอาจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเผลอกินเห็ดพิษ
หากทานเห็ดมีพิษเข้าไปพยายามทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยการล้วงคอ หรือให้ทานไข่ขาว ให้อาเจียนออกมามากที่สุด จากนั้นใช้ผงถ่านผสมน้ำอุ่นให้ผู้ป่วยดื่ม เพื่อดูดสารพิษ แล้วล้วงคอให้อาจานอีกครั้ง จากนั้นรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลพร้อมตัวอย่างเห็ดพิษให้เร็วที่สุดค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข , sanook
ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก : กรมควบคุมโรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น